รายการบล็อกของฉัน

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทองร่วง !

     วันนี้ราคาทองลงมาเหลือ 1575 เหรียญ จากที่เคยขึ้นไปสูงสุด 1920 เหรียญ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็เกือบ 20% แล้ว มันจะตกต่อไปหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ตอนนี้ผมสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง คือ Commodity เกือบทุกชนิด ถูกเทขาย ราคาร่วงตามกันลงมาหมดเลย เมื่อคืน น้ำมันร่วงมาทีเดียว 5% นั่นแปลได้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ขายสินทรัพย์ออก แล้วกลับมาถือเป็นเงินสด ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นมาทันที ถ้าสังเกตุดีๆจะเห็นว่าทุกอย่างมันเป็น Cycle ของมัน มีขึ้น-มีลง ขึ้นแรง-ลงแรง เสมอ ถ้ามองภาพนี้ออกแล้วก็จะไม่ตกใจกลัว ในเมื่อมีขึ้นก็มีลง แล้วเราจะไปขายตอนมันลงทำไม ตอนมันลง ถ้าเรามีเงิน (เย็น) เราก็ควรซื้อเพิ่ม แต่เวลาที่เราควรจะขายคือ เวลาที่มันขึ้นแรงๆ แต่ทองนี่ดูยาก เพราะไม่มีดัชนีวัดความถูกแพง ดังนั้นวิธีที่เหมาะกับการลงทุนในทองคำมากที่สุด ผมคิดว่าคือ การทยอยเฉลี่ยซื้อตอนที่มันลง แต่ก็อีกแหละ ไม่รู้ว่าลงถึงขนาดไหนถึงจะซื้อ อันนี้ก็คงต้องแล้วแต่ความพอใจของแต่ละคน แต่มีหลักอยู่อย่างเดียวที่ขอยืมคำพูดมาจาก วอเรนต์ บัฟเฟต คือ 1. อย่ายอมขาดทุน 2. ให้กลับไปดูข้อที่ 1.  ผมว่านี่แหละหัวใจสำคัญของการลงทุน เวลาจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บจากการลงทุน ดังนั้น เงินใครยิ่งเย็นยิ่งได้เปรียบ

     วันนี้ผมจะยกตัวอย่างนักลงทุนในดวงใจผม ซึ่งผมภูมิใจมากที่สุด นั่นก็คือ คุณพ่อของผมเองครับ ^_^ คุณพ่อของผม ลงทุนในทองคำแท่งมานานมากแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีใครสนใจทองคำแท่งเลย คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อน ไปซื้อทองทั้งร้านมีคนเดียวที่เข้าไปซื้อ จะซื้อเวลาไหนก็ได้ ไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องกังวลเรื่องราคา เพราะไม่มีการขึ้นๆลงๆ บางทีก็เป็นอาทิตย์กว่าจะปรับราคา แต่เด๋วนี้กลับกันมาก บางวันต้องรอคิวถึง 800 คิว แล้วราคาก็ขึ้นๆลงๆ วันนึงไม่รู้กี่รอบ ตั้งแต่เล่นมาคุณพ่อของผม ยังไม่เคยขาดทุนเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะกลยุทธก็คือ Buy&Hold เท่านั้น ไม่เคยอ่านข่าว ไม่เค่ยอ่านบทวิเคราะห์ ไม่เคยกังวลว่าซื้อมาแล้วจะลงอีกเท่าไร คือไม่เคยสนใจอะไรเลย แค่รู้ว่าทองเป็นทุนสำรองของแต่ละประเทศ ฉะนั้นถ้าเราเก็บไปเรื่อยๆ ก็เหมือนทุนสำรองของบ้านเรา เหมือนกัน มันจะเพิ่มค่าไปเรื่อยๆ เพราะเงินมีค่าลดลงเรื่อยๆ เวลาทองลงหนักๆ ก็จะได้เวลาไปซื้อทอง แล้วพอว่างๆ ก็เอามาเปิดดูชมความแวววาวของทอง แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว

     ผมยอมรับว่าตอนแรกที่ผมเข้ามาเล่นหุ้น ผมไม่เคยสนใจวิธีนี้เลย เพราะกว่าจะได้กำไร มันใช้เวลานาน แล้ว กำไรก็ดูจะน้อย เอาง่ายๆว่า รวยช้า คือตอนนั้นกะเข้ามาเล่นแล้วรวยเลย สุดท้ายกลับเจ๊งไม่เ็ป็นท่า แต่ผมโชคดีมาก ที่มีคุณพ่อที่คอยแนะนำ และส่งเสริมให้ผมรู้จักการลงทุน โดยไม่ได้เสียดายเงิน ที่ผมทำเสียไปในตอนแรก การลงทุนครั้งใหม่ของผมนี้ ทำให้ผมเข้าใจการลงทุนที่แท้จริง และตอนนี้ เงินลงทุนของผมนั้น มันก็เริ่มทำงาน ออกดอกออกผลแล้ว ผลงานทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบ ให้คุณพ่อของผมทั้งหมดเลยครับ ^_^

ลองสังเกตุดูดีๆครับว่าถ้าเราลากเส้นเฉลี่ยออกไปยาวๆแล้ว Asset ทุกอย่างที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมันมีแต่ขึ้นกับขึ้นครับ (ขออภัย กราฟอาจจะข้อมูลล้าหลังไป)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น