รายการบล็อกของฉัน

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หุ้น CPF ร่วง !

     เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา หุ้น CPF ได้ถูกเทขายออกมา จนราคาร่วงมาประมาณ 10% ในอาทิตย์เดียว มีคำถามต่อว่า มันจะร่วงต่อมั๊ย อันนี้ตอบยาก เพราะไม่มีใครรู้ว่าคนที่เขากำลังขายอยู่ จะหยุดขายเมื่อใด แต่สิ่งที่สังเกตุได้จากเหตุการณ์นี้ก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ โบรกเกอร์หลายๆที่ บอกว่ากำไรไตรมาสหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5500 MB แต่ไหงพอตอนหุ้นจะร่วง เกิดคาดการณ์กำไรใหม่ว่าเหลือ ไม่ถึง 4000 MB และมันออกมาพร้อมกับ Volume มหาศาล ผลก็คือ หุ้นร่วงกระจาย

     สำหรับผมแล้ว ผมมองว่า พื้นฐานของหุ้นไม่ได้เปลี่ยนเลย ยังไงก็คงเหมือนเดิม อนาคตของหุ้นตัวนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่ Panic Sell นั้น ทำให้หุ้นเหมือนจะแย่มาก และพอราคาหุ้นร่วงลงมามาก ข่าวร้ายก็ยิ่งออกมาสนับสนุนมากขึ้น เหมือนการเติมเชื้อเพลิง ให้หุ้นร่วงลงไปอีก จนตอนนี้ราคา้ 35 บาท และจะได้ปันผลประมาณ 3.2 % ต่อปี ถ้ามองคร่าวๆแค่นี้และ หุ้นระดับประเทศที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องกินต้องใช้แล้ว ผมมองว่าคุ้มค่า(มันมากกว่า เงินฝากธนาคาร) แต่สิ่งที่ผมมองว่าคุ้มค่ามากกว่านั้นคือ อนาคตของหุ้น ที่มี Story ในการเติบโตได้ในระยะยาว จากการขยายธุรกิจออกต่างประเทศ และจากอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันๆ 

     สิ่งที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งของ CPF คือ หุ้นมีลักษณะเป็น Commodity ซึ่งรายได้จะไม่นิ่ง แต่ถ้าเรามองภาพระยะยาวแล้ว ราคาอาหารซึ่งเป็นปัจจัย 4 นั้น มีราคาสูงขึ้นตลอด เราจะเห็นภาพการ Growth ที่่ชัดเจนขึ้น และ ความเห็นของผม ผมมองว่า การหันมาเน้นด้านธุรกิจอาหารปรุงสำเร็จ (ทั้งที่แช่งแข็ง และ ไม่แช่แข็ง) จะทำให้รายได้นิ่งขึ้น จากสัดส่วนตอนนี้ อาหารปรุงสำเร็จมี 20% ซึ่งถ้ามองแล้ว มีโอกาสที่จะเติบโตได้อีก ซึ่งถ้ามองจาก Trend ของการบริโภคในอนาคตแล้ว คนต้องการอาหารปรุงสำเร็จมากขึ้น เนื่องจากความง่าย และ รวดเร็ว หรืออย่าง อาหารแช่แข็ง ก็สามารถเก็บรักษาได้นาน และส่วนที่ได้เปรียบคือ ผลิตภัณฑ์ของ CP สามารถขายผ่าน 7-Eleven ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ หรือ ถ้าจะเป็นอาหารแช่แข็ง CPF ได้ขยายร้านค้า CP-Freshmart ซึ่งเป็นช่องทางกระจายสินค้าที่มีลักษณะคล้ายๆกับ 7-Eleven มองภาพแล้วจะเห็นความสามารถในการ Growth ในระยะยาวได้ 

    นี่คือความคิดเห็นคร่าวๆ ของผม ที่มองว่า CPF มี Story ที่จะ Growth ได้ในระยะยาว แต่จะถูกหรือผิดนั้นอีกเรื่อง แต่ผมว่าิสิ่งที่สำคัญที่สุดของการถือหุ้น คือเราเชื่อว่าอนาคตหุ้นนี้จะเป็นอย่างไร โดยการตรวจสอบก็ ตรวจสอบได้จากกำไรแต่ละไตรมาส ว่าหุ้นนั้นมีพัฒนาการไปอย่างที่เราคิดหรือไม่ ดังนั้นผมจึงคิดว่า การที่หุ้นตกมาในครั้งนี้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อกิจการที่ดี ในราคาที่ถูก ผมมี Trick นิดนึงที่จะเพิ่มความมั่นใจในการซื้อหุ้นของผม คือ ผมจะอ่านข่าวจาก นสพ. ทุกฉบับ เกี่ยวกับ CPF ตอนนี้ พออ่านจบแ้้ล้ว ถามตัวเองว่ารู้สึกยังไงกับหุ้นตอนนี้ อย่างตอนนี้ผมรู้สึกว่าหุ้นตัวนี้มันมีข่าวร้ายเยอะเหลือเกิน ยังไม่น่าซื้อเลย หลังจากนั้นผมจะทำตรงข้ามคือ ซื้อทันทีเลย เหตุผลคือ คนทุกคนที่จะซื้อหุ้นตัวนี้ ก็ต้องหาข่าวอ่านเหมือนผม และพออ่านเสร็จก็จะรู้สึกเหมือนผมคือ ยังไม่อยากซื้อ รอไปก่อนดีกว่า สุดท้ายเมื่อยังไม่มีคนซื้อ นั่นก็แปลว่า ราคามันยังไม่แพง นี่แหละคือช่วงที่น่าซื้อที่สุด ^_^


สังเกตุ Volume วันที่ร่วงหนัก