หลังจากผมเจ็บตัวอย่างหนัก ในครั้งแรกๆ ตอนนั้นขาดทุนประมาณ 60-70% (สยองมาก) แต่ตอนนั้นผมโชคดีอยู่อย่างคือ ผมไม่ได้เงินทั้งหมดเล่น ทำให้ตอนนี้ผมเหลือเงินเพื่อมาเริ่มต้นใหม่ได้ และมันก็คืนทุนไปแล้ว ตอนนั้นผมขาดทุนเยอะมาก จนหยุดเล่นไประยะหนึ่ง แต่ตอนที่หยุดเล่นนั้น ผมไม่ได้ยอมแพ้ ผมพยายามศึกษาที่จะกลับมาเล่นให้ได้ ความรู้สึกในตอนนั้นต่างกับการศึกษาครั้งแรกมาก ครั้งที่สองนี้ยอมรับว่าใช้เวลาในการอ่านต่อวันเยอะมาก ศึกษาอย่างละเอียด เค้าดูเว็บบอร์ดเยอะมากๆ สุดท้ายก็มานั่งวิเคราะห์ และสรุปผลที่ได้ศึกษามา วิธีการวิเคราะห์ของผมอาจจะแปลกกว่าคนอื่น แต่มันได้ผลจริง(ลองใช้ดู) คือ พอผมอ่านเสร็จผมก็จะมาเล่าให้คนรอบข้างฟัง(คนรู้ใจ) พอเล่าไปเรื่อยๆมันเหมือนการได้อธิบายให้ตัวเองฟัง พร้อมกับการคิดแบบเป็นตัวของตัวเอง มันทำให้ผมได้แนวคิดใหม่ๆ ทุกครั้งที่ผมเล่า แต่คุณต้องแน่ใจว่าคนรู้ใจของคุณต้องไม่เบื่อที่จะฟัง (ผมโชคดีตรงที่เค้าไม่เบื่อ)
และแล้วผมก็ได้พบอยู่อย่างเกี่ยวกับตลาดหุ้น คือ คนที่เข้ามาเล่นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นคนที่ฉลาดและเก่งขนาดไหน มีแนวโน้มว่าจะขาดทุนมากถ้าไม่มีเหตุผลพอ เรื่องง่ายๆที่ผมพลาดมากๆ และผมจะจำตลอดไปคือ ตอนที่ผมซื้อหุ้นครั้งแรก ผมอ่านข่าวหนังสือพิมพ์มา เจอหุ้นตัวนึงมีข่าวดีสุดๆ และพออ่านบทวิเคราะห์ฺของโบรกเกอร์ มันทำให้ผมจินตนาการว่า บริษัทนี้มีอนาคตที่สุดยอดมาก ตอนนั้นหาอะไรที่ร้ายไม่ได้เลย ผมจึงตัดสินใจซื้อ ผ่านไปไม่นาน ราคาก็ร่วงเละเทะ (ตอนนั้นจำได้่ว่า PE ประมาณ 20 แล้ว Dividend ก็ 1% กว่าๆ) ตอนแรกผมไม่ยอมขาดทุน เพราะคิดว่าเด๋วก็ขึ้น สุดท้ายพอร่วงมาเยอะๆ ขาดทุนเละเทะ เลยครับ เพราะทำใจถือต่อไม่ได้ บทเรียนครั้งนั้นทำให้ผมตาสว่าง จริงๆมันเป็นหลัก ตรรกศาสตร์ง่ายๆเลยคือ เมื่อทุกอย่างมันดี ทุกคนก็ซื้อกันหมดแล้ว ราคามันก็เลยแพง และหลังจากนั้น คนที่เค้ากำไรเยอะเค้าก็ Sell on Fact ราคาที่แพงเว่อร์นั้น มันก็ร่วง พอร่วงมันก็จะมีข่าวมา Support จากนั้นก็ร่วงกระจาย(สังเกตุดูดีๆ ข่าวมันจะมาหลังราคาหุ้นวิ่งเสมอ) มันเป็นเหตุเป็นผลง่ายๆเลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นคิดไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะความโลภบังตา
ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่คนส่วนใหญ่คิดว่าจะเข้ามาหาเงินง่ายๆ ดังนั้นไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะเจ๊งออกไป คนที่อยู่ในรอดในตลาดหุ้นนั้น ส่วนใหญ่เค้าเทพกันทั้งนั้น ดังนั้นถ้าคุณไม่ทำการบ้านมาดีพอ และมีจิตใจที่ไม่มั่นคงพอ คุณตกเป็นเหยื่อของเขาแน่นอน คนส่วนใหญ่ชอบเชื่อเวลาขาใหญ่มาออกข่าวว่า กำลังดูหุ้นตัวนี้อยู่ หรือ เก็บไปแล้วส่วนหนึ่ง กำลังจะเก็บเพิ่ม คุณลองคิดด้วยเหตุผลดู ถ้าเค้าจะเก็บเพิ่มจริงๆ เค้าจะออกมาบอกทำไม ในเมื่อถ้าเค้าบอกแล้วคนเชื่อ หุ้นตัวนั้นจะวิ่งจนเค้าต้องซื้อแพงขึ้น (คงไม่มีใครอยากซื้อของแพง จริงมั๊ย?) วิธีที่ถูกต้องในการเล่นหุ้นคือ คุณต้องศึกษาพื้นฐานของบริษัทจริงๆ และซื้อเวลาที่มันถูกเท่านั้น การจะบอกได้ว่าถูก ก็คือคุณต้องศึกษาเองเท่านั้น คุณถึงจะบอกได้ว่ามันถูก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น