รายการบล็อกของฉัน

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หุ้น PTT

     จากที่ผมศึกษาหุ้นตัวนี้มา ผมสังเกตุเห็นอยู่อย่างว่า หุ้นตัวนี้มี Market Cap. มากที่สุดในตลาด ดังนั้นเวลาหุ้นตัวนี้ขึ้นหรือลง ตลาดก็จะมีแนวโน็มตามหุ้นตัวนี้  ณ เวลานี้ PTT มี Market Cap. 9 แสนล้าน (19 สิงหาคม 2554) ตอนผมมาศึกษาหุ้นตัวนี้ดูใหม่ๆ ผมคิดอยู่ในใจว่าใครเป็นเจ้าของหุ้นตัวนี้ คนนั้นต้องรวยที่สุดในประเทศแน่ๆ และแล้วผมก็ได้รู้ว่า ผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ PTT คือ กระทรวงการคลัง โอ้โห! ฉะนั้นบอกได้เลยว่า นี่คือรายได้ก้อนใหญ่ของกระทรวงการคลังเลย  ลองมาดูปันผลต่อปีคือ(ณ เวลานี้) 3.21% และ Market Cap. อยู่ที่ 9 แสนล้าน กระทรวงการคลังมีหุ้นอยู่ประมาณ 50% พอมาจิ้มเครื่องคิดเลขดูแล้ว ผลปรากฏว่าเงินปันผลที่กระทรวงการคลังได้ ปีละ... 14,445 ล้านบาท(เยอะจัง)   พอดูเจ้าของหุ้นแล้ว เราไปดูกิจการที่ PTT ถือหุ้นอยู่บ้าง หลักๆก็มี BCP 22.46%, IRPC 38.65% ,TOP 49.10% ,PTTEP 65.32%, PTTAR 48.40%, PTTCH 48.68%  ดูแล้วไม่ธรรมดา(เหมือนจะผูกขาดกิจการน้ำมันในประเทศไทย) ดูๆแล้วก็มี ESSO ที่ PTT ไม่มีหุ้นอยู่(เพราะมันเป็นของ Exxon)  

     ทีนี้เรามาดูกันว่ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับ PTT ในตอนนี้บ้าง เราเริ่มกันที่ข่าวดีก่อนดีกว่า หนึ่งคือ กำไรของ PTT ตอนนี้ รวม 2 ไตรมาส 67,000 ล้านบาทซึ่งนับว่าสูง เมื่อเทียบกับปีก่อน ตอนนี้ผมนึกได้เท่านี้ครับ(555) อ่าวทีนี้เรามาดูข่าวร้าย(อาจจะมีเยอะหน่อย) เรื่องแรกเลย คือ ไม่นานมานี้เกิดเหตุท่อก๊าซรั่วที่อ่าวไทย ซึ่งทำให้ PTT ต้องรับภาระการนำเข้าน้ำมันเตาเพื่อป้อนให้โรงไฟฟ้า เรื่องที่สอง คือ ราคาน้ำมันดัิบตอนนี้ ที่ดิ่งลมมาอย่างแรง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะขาดทุนจาก Stock น้ำมัน และเรื่องสุดท้าย(ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันรึเปล่า แต่เคยอ่านเจอบทวิเคราะห์สำนักหนึ่งบอกไว้) ว่าปีนี้ PTT จะลดงบลงทุนลงซึ่งทำให้นักลงทุนคิดว่า กำไรจะไม่โตในอัตราที่สูง ทั้งหมดก็เป็นข่าวดีและข่าวร้ายเบื้องต้นที่ผมเอามาเขียนให้ แต่ถ้าอยากลงลึกกว่านี้ลอง Search ดู (มีเยอะมาก) แต่เอาเป็นว่าภาพรวมในตอนนี้มีข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี รวมทั้งตอนนี้ตลาดหุ้นมีการปรับฐาน ทำให้ราคาหุ้น PTT ยิ่งลงไปใหญ่

     ถ้ามองภาพด้วยความใจเย็น และมีความตั้งใจที่จะลงทุนระยะยาว ผมว่านี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเวลามีข่าวร้ายเยอะบวกกับการปรับฐาน ราคาหุ้นมักจะตกลงไปมากกว่าความเป็นจริง (Panic Sell) และนี่แหละเป็็นโอกาสในการซื้อของถูก แต่เราต้องมั่นใจว่าธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจที่มั่นคง ไม่เจ๊งง่ายๆ แล้วพอเราซื้อแล้วเราต้องทำใจได้กับราคาหุ้นที่อาจจะลงไปอีก เพราะเวลาคน Panic ตอนนั้นคนจะไม่สนใจอะไรแล้ว ขอให้ขายได้เป็นพอ  ดังนั้นเราซื้อหุ้นแล้วเราต้องทำใจไว้ก่อนเลยว่าจะต้องลงอึก (มันจะทำให้เราสบายใจขึ้น) อย่าพยายามซื้อที่จุดต่ำสุด เพราะมีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก(ต้องดวงเฮงเท่านั้น) และดูจากตอนนี้ Dividend อยู่ที่ 3.21% PE 9 กว่าๆ เทียบกับค่าเฉลี่ยตลาดแล้วถือว่าถูก และความมั่นคงของหุ้นก็ดูได้จากการ ผู้ถือหุ้นใหญ่ และพฤติกรรมการใช้พลังงานของมนุษย์ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น